จากล็อคตัวแรก สู่การเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยของประตูของสวีเดน - ASSA พัฒนาเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ ที่นำเสนอโซลูชันที่หลากหลาย ได้อย่างไร ลองติดตามประวัติเพื่อค้นหา

กิจการครอบครัว ซึ่งวางรากฐานสำหรับการพัฒนาของ ASSA

จากล็อคตัวแรก สู่การเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยของประตูของสวีเดน - ASSA พัฒนาเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ ที่นำเสนอโซลูชันที่หลากหลาย ได้อย่างไร ลองติดตามประวัติเพื่อค้นหา

ในปี 1849 Frans August Stenman วัย 23 ปี ฝึกงานช่างทำกุญแจ สมัครเป็นผู้ผลิตในเมือง Eskilstuna ของสวีเดน เขาส่งตัวอย่างงานของเขา กุญแจที่ได้รับการอนุมัติว่า "ดำเนินการด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม" และได้รับใบรับรองจากช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ของเขา

ตอนนี้เขาสามารถเริ่มต้นบริษัทของตัวเองที่รู้จักกันในชื่อ FAS อย่างไรก็ตาม August Stenman ลูกชายคนหนึ่งของเขามีความคิดของตัวเอง ในปี ค.ศ. 1881 August ได้ซื้อโรงงานบานพับในเมือง Eskilstuna และกลายเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมของสวีเดน เขามุ่งเน้นไปที่การผลิตจำนวนมากและระบบอัตโนมัติ และมีเครื่องจักรพิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับสายการผลิตของเขา

บริษัทของเขา August Stenman AB ได้กลายมาเป็น ASSA ในไม่ช้า แหล่งข้อมูลกล่าวว่าเป็นภรรยาของ August ซึ่งมีความรู้สึกสมมาตรเมื่อเธอปักหมอนอิงด้วยชื่อย่อ ASSA ซึ่งย่อมาจาก August Stenman Stenman August

มุ่งเน้นไปที่การผลิตล็อค

ในปี ค.ศ. 1939  ASSA ได้เริ่มก้าวแรกสู่การผลิตตัวล็อค เมื่อได้เข้าซื้อกิจการบริษัทล็อคขนาดเล็ก นามว่า K.S. Thulins Lås-och Metallfabrik  ในปี ค.ศ. 1946 ASSA ได้เปิดตัวระบบล็อคความปลอดภัยขั้นสูงโดยใช้กระบอกสูบแบบห้าพินซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ตามมาด้วยตัวล็อคแบบเจ็ดพินตัวแรกของโลก ภายใต้คติที่ว่า “ตัวล็อคจะต้องถูกผลิตขึ้นด้วยความแม่นยำในการผลิตขนาดใหญ่ที่มีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด และตรงตามข้อกำหนดมากที่สุด เพื่อความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์”

ในปี ค.ศ. 1951 ASSA เป็นบริษัทแรกในสวีเดนที่แนะนำการทำงานสัปดาห์ละห้าวัน ได้เปิดร้านอาหารพนักงานในปีนั้นด้วย

ASSA ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากการสร้างยุโรปขึ้นใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1970 ล็อคเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท เหตุผลหนึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ASSA เริ่มจัดหาระบบล็อคให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วของสวีเดนอย่าง Volvo และ SAAB

ปรับตัวเข้ากับความท้าทายใหม่

ในปี 1988 Securitas ได้ซื้อกิจการของ ASSA ในขณะนั้น ASSA ดำเนินการขาดทุน ยุคสมัยแห่งการก่อสร้างที่เฟื่องฟูเป็นเวลายาวนานได้สิ้นสุดลงอย่างกะทันหันด้วยวิกฤตการณ์น้ำมันในปี 1973-1974 ABLOY แบรนด์จากฟินแลนด์มีส่วนสร้างความท้าทายให้กับ ASSA Abloy เลี่ยงที่จะขายสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายในสวีเดน และเริ่มขายกุญแจ Boda โดยตรงให้กับผู้ผลิตประตูในราคาที่ต่ำกว่า ASSA อย่างมาก

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากหากสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินอยู่ เวลาในการจัดส่งอาจนานถึงสามถึงสี่เดือน การปรับโครงสร้างอย่างครอบคลุมส่งผลให้การผลิต การบริหาร และการกระจายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่กี่ปีผ่านไป ASSA สามารถให้คำมั่นสัญญากับลูกค้าว่าหากสั่งก่อนเวลา 10.00 น. สามารถจัดส่งได้หลัง 16.00 น.

กระบวนการทำให้เพรียวลมนี้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง การทำกำไรเปลี่ยนจากสั่นคลอนเป็นแข็งแกร่ง ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งเหล่านี้ ฝ่ายบริหารจึงเริ่มมองหาการเติบโตที่ประสบความสำเร็จผ่านการเข้าซื้อกิจการ ก้าวสำคัญระดับสากลในปี 1991 ด้วยการเข้าซื้อกิจการบริษัท Arrow สัญชาติอเมริกัน ผู้ผลิตล็อคแบบดั้งเดิมในสหรัฐอเมริกา

ในปี 1990 บริษัท Stenman อีกแห่งได้เข้าร่วมใน 'ครอบครัว' เมื่อ ASSA เข้าครอบครอง FAS ด้วยการเพิ่มบริษัทขนาดเล็กอีกสองสามแห่ง ASSA อยู่ในตำแหน่งที่ดีในโซลูชันการรักษาความปลอดภัยสำหรับประตูประเภทต่างๆ

การพัฒนาเหล่านี้เพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่ม ASSA อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้บริหารมีความมั่นใจและทรัพยากร ผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างมากในปี 1992 และ 1993 และบริษัทเริ่มแสวงหาโอกาสในการขยายกิจการ ขั้นตอนที่เป็นธรรมชาติคือการควบรวมตลาดนอร์ดิกซึ่งมีบริษัทเดียวเท่านั้นที่จะควบรวมได้คือ ABLOY ของฟินแลนด์